วันอาทิตย์ที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2553
10 ผลไม้ไทยที่มีสารต้านมะเร็งสูง
ภาวะโลกร้อน กับ หมีขั้วโลก
หมีขั้วโลกใช้เวลากว่า 2 แสนปีในการวิวัฒนาการตัวเองจากหมีสีน้ำตาลกลายมาเป็นหมีขั้วโลกสีขาว และพัฒนาตัวเองให้มีความเหมาะสมกับสภาพพื้นที่ๆเต็มไปด้วยน้ำแข็ง คือ มีขนที่อุ้งเท้า นิ้วสั้น เล็บโค้งงอ เหมาะที่จะยึดตัวเองกับน้ำแข็งได้อย่างสบาย และยังมีท่อนขาขนาดใหญ่ เพื่อที่จะเฉลี่ยน้ำหนักอันมหาศาลของตัวมันเอง ทำให้สามารถเดินบนพื้นน้ำแข็งที่บางๆได้ ปัจจุบันหมีขั้วโลกเหลืออยู่บนโลกใบนี้ประมาณ 22,000-27,000 ตัวเท่านั้น
ภาวะโลกร้อนทำให้น้ำแข็งที่ขั้วโลกละลายลงอย่างรวดเร็ว หมีขั้วโลกที่ปกติอาศัยอยู่บนพื้นน้ำแข็งก็ทำให้หาแผ่นน้ำแข็งอยู่ได้ยากขึ้น มีหลายครั้งที่หมีขั้วโลกต้องว่ายน้ำเป็นร้อยๆไมล์เพื่อหาอาหาร และหาแผ่นน้ำแข็งเหยียบ ทำให้มีหมีขั้วโลกจมน้ำตายไปแล้วก็มี ด้วยอาหารที่หายากมากขึ้นบวกกับน้ำแข็งที่เป็นที่อยู่ของมันลดน้อยลงอันเนื่องมาจากภาวะโลกร้อน หมีขั้วโลกจึงเป็นสัตว์ที่เสี่ยงต่อการสูญพันธุ์มาก
เรามาช่วยกันลดภาวะโลกร้อนกันเถอะ ก่อนที่หมีขั้วโลกและสัตว์อื่นๆจะแย่และสูญพันธุ์ไปมากกว่านี้ ถ้ามีใครมาไล่ที่อยู่ที่เราเคยอาศัยเคยทำกินอยู่เราก็คงเดือนร้อนแน่ใช่ไหม เพราะฉะนั้นถ้าช่วยกันลดภาวะโลกร้อนได้ก็ช่วยๆกันนะ ถือว่าสงสารเจ้าหมีขั้วโลกและก็สัตว์อื่นๆ ภาพนี้คงอธิบายได้เป็นอย่างดี….
น้ำขิง
วันอาทิตย์ที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2553
ส้มโอ หรือ เกรปฟรุต ต้านสารพิษ
ส้มโอ หรือ เกรปฟรุต เป็นผลไม้รสชาติดีที่ได้รับความนิยมในอาหารมื้อเช้าของชาวตะวันตก สารเพกติน ซึ่งเป็นไฟเบอร์ประเภทหนึ่งในเกรปฟรุต สามารถช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในเส้นเลือด ก่อนที่จะจับตัวเป็นก้อนและขวางทางเดินในหลอดเลือด นอกจากนี้เพกตินยังสามารถช่วยป้องกันไม่ให้โลหะหนักเหล่านี้ทำอันตรายต่อร่างกาย ส่วนเกรปฟรุตยังช่วยต่อต้านการเกิดมะเร็ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งมะเร็งกระเพาะอาหาร และ มะเร็งตับอ่อน สารต้านอนุมูลอิสระในเกรปฟรุตช่วยปกป้องสารพิษที่เป็นอันตรายต่อร่างกายได้
ประโยชน์หลากหลายจาก "มะละกอ"
ทดสอบน้ำผึ้งแท้
ในน้ำผึ้ง การตรวจจับด้วยเทคนิคด่างๆ จึงเป็นเรื่องยาก
นอกจากตรวจสอบในห้องปฏิบัติการเท่านั้นซึ่งมีราคา
แพงและค่อนข้างยุ่งยาก วิธีที่ดีที่สุดคือควรซื้อน้ำผึ้ง
จากผู้ขายที่เชื่อใจได้ หรือมิฉะนั้นต้องใช้สายตาประเมิน คุณภาพดังต่อไปนี้
1. มีความข้นและหนืดพอสมควรซึ่งแสดง
ว่าน้ำผึ้งมีน้ำน้อย มีคุณภาพสูง
2. มีสีตามธรรมชาติ ตั้งแต่สีเหลืองอ่อนถึง
น้ำตาล ใส ไม่ขุ่นทึบ
3. มีกลิ่นหอมของน้ำผึ้งตามชนิดของ
ดอกไม้นั้นๆ เช่น น้ำผึ้งจากดอกลำไย
น้ำผึ้งจากดอกลิ้นจี่
4. ปราศจากกาก ไขผึ้ง หรือเศษตัวผึ้งปะปน รวมทั้งวัสดุแขวนลอยต่างๆ
5. ไม่มีกลิ่นบูดเปรี้ยว ไม่มีฟอง
6. ไม่มีการใส่สารปรุงแต่งสี กลิ่น รสใดๆ ลงในน้ำผึ้ง
7. การหยดน้ำผึ้งใส่กระดาษไข ถ้าเป็นของแท้จะไม่ซึมแน่นอน
8. ทดสอบโดยหยดน้ำผึ้งลงในแก้วน้ำชา สังเกตการณ์ละลายถ้าเป็นนํ้าผึ้ง
แท้เมื่อคนให้เข้ากันจะไม่ละลายในทันที
สามเหลี่ยมทองคำ
สามเหลี่ยมทองคำ เป็นชื่อใหม่ที่ตั้งขึ้นเพื่อการท่องเที่ยวให้แก่บ้านสบรวก ตำบลเวียงอำเภอเชียงแสน อยู่ห่างจากอำเภอแม่สาย 28 กิโลเมตร ตามทางหลวงหมายเลข 1290 เมื่อมองจากฝั่งไทยไปทางตะวันออกเฉียงเหนือ จะเห็นหมู่บ้านในฝั่งลาวอย่างชัดเจน ส่วนทางพม่าซึ่งอยู่ด้านตะวันตกนั้น ไม่มีหมู่บ้านหรือสิ่งก่อสร้างให้เห็นในระยะใกล้ๆ ทิวทัศน์ของแม่น้ำโขงบริเวณนี้มีความงดงามโดยเฉพาะยามเช้าที่ดวงอาทิตย์ขึ้น ท่ามกลางสายหมอกด้านฝั่งพม่า และลาว นักท่องเที่ยวนิยมนั่งเรือเที่ยวชมทิวทัศน์จุดบรรจบของพรมแดนไทย ลาว และพม่า หรือถ้าต้องการชมทิวทัศน์สองฝั่งแม่น้ำโขงไปไกลถึงเชียงแสนและเชียงของ ก็สามารถหาเช่าเรือได้ แต่ค่าเรือขึ้นอยู่กับระยะทางใกล้ไกล นักท่องเที่ยวที่สนใจล่องแม่น้ำโขงไปเที่ยวทางตอนใต้ของประเทศจีน เช่น สิบสองปันนา คุนหมิง สามารถติดต่อกับบริษัทนำเที่ยวในจังหวัดเชียงรายได้ หากต้องการจะชมทิวทัศน์มุมกว้างของสามเหลี่ยมทองคำบริเวณสบรวกและเพื่อนบ้าน ต้องขึ้นไปบนดอยเชียงเมี่ยง สบรวกด้านที่อยู่ริมแม่น้ำโขง มีร้านจำหน่ายของที่ระลึกเรียงรายสองข้างทาง มีซุ้มประตูเขียนว่า สามเหลี่ยมทองคำ สำหรับนักท่องเที่ยวได้ถ่ายภาพเป็นที่ระลึก และเป็นจุดหมายหนึ่งของการมาเที่ยวเชียงราย
วัดพระธาตุผาเงา
ชื่อของวัดนี้มาจากชื่อของพระธาตุผาเงาที่ตั้งอยู่บนยอดหินก้อนใหญ่ คำว่าผาเงาก็คือ เงาของก้อนผา (ก้อนหิน) หินก้อนนี้มีลักษณะสูงใหญ่คล้ายรูปทรงเจดีย์และทำให้ร่มเงาได้ดีมาก ชาวบ้านจึงตั้งชื่อว่า “พระธาตุผาเงา” ความจริงก่อนที่จะย้ายวัดมาที่นี่ เดิมมีชื่อว่า “วัดสบคำ” ซึ่งตั้งอยู่บนฝั่งแม่น้ำโขง ฝั่งน้ำได้พังทลายลง ทำให้บริเวณ ของวัดพัดพังลงใต้น้ำโขงเกือบหมดวัด คณะศรัทธาจึงได้ย้ายวัดไปอยู่ที่ใหม่บนเนินเขา ซึ่งไม่ไกลจากวัดเดิม
ประวัติ ในช่วงสมัยของอาณาจักรโยนก วัดร้างแห่งนี้กำลังอยู่ในช่วงที่เจริญรุ่งเรืองสุดขีด สันนิษฐานว่าอาจจะเป็นวัด ที่สำคัญและ ประจำกรุงเก่าแห่งนี้ก็เป็นได้ จะเห็นได้ ว่าพระพุทธรูปหลวงพ่อผาเงาที่ขุดค้นพบแห่งนี้ถูกสร้างและฝังอยู่ใต้ พระพุทธรูปองค์ใหญ่ (พระประธาน) จะปิดบังซ่อนเร้นกลัวถูกโจรกรรมจากพวกนิยมสะสม ของเก่า ตอนแรกได้สันนิษฐานว่าบริเวณเนินเขาเล็กๆ ลูกนี้ที่กำลังแผ้วถางอยู่นี้จะต้องเป็นวัดเก่าแน่ เพราะได้พบเห็นซากโบราณวัตถุ ุกลาดเกลื่อนไปทั่วบริเวณในเดือนกุมภาพันธ์ 2519 จึงได้ลงมือแผ้วถางป่า แต่เดิมที่แห่งนี้เคยเป็นถ้ำ เรียกว่า ถ้ำผาเงา ปากถ้ำถูกปิดไว้นาน ทำให้บริเวณแห่งนี้เป็นป่ารก เต็มไปด้วย ซากโบราณวัตถุกระจัดกระจายอยู่กลาดเกลื่อน การค้นพบพระพุทธรูปหลวงพ่อผาเงา เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2519 เวลา 14.00 น. เมื่อคณะศรัทธาได้ปรับพื้นที่เรียบร้อยแล้ว ทุกคนต่างตื่นเต้นและปีติยินดีเมื่อ ได้พบว่าใต้ตอไม้นั้น (หน้าฐานพระประธาน) มีอิฐโบราณก่อเรียงไว้ เมื่อยกอิฐออกก็พบหน้ากาก จึงได้พบพระพุทธรูป มีลักษณะสวยงามมาก ผู้เชี่ยวชาญทางโบราณวัตถุได้วิเคราะห์ว่า พระพุทธรูปองค์นี้มีอายุระหว่าง 700-1,300 ปี คณะทั้งหมดจึงได้พร้อมกันตั้งชื่อพระพุทธรูปองค์นี้ว่า “หลวงพ่อผาเงา” และเปลี่ยนชื่อวัดใหม่เป็น “วัดพระธาตุผาเงา” ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา